เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2025 คุณรสลิน โกแวร์ ผู้อำนวยการมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย และ นายแพทย์พงษ์ศักดิ์ โสภณ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพิงค์ เชียงใหม่ ได้ร่วม พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในโครงการ Every Dream Matters ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญในการให้ความช่วยเหลือเด็กกลุ่มเปราะบางทางด้านสุขภาพและเศรษฐกิจ โดยมีคณะผู้บริหารมูลนิธิศุภนิมิตฯ และ ผู้บริหารโรงพยาบาลนครพิงค์ เชียงใหม่ ร่วมเป็นสักขีพยาน
โครงการนี้มุ่งเน้นการดูแลและสนับสนุนผู้ป่วยเด็กที่มีความเปราะบางในด้านสุขภาพ เช่น ผู้ป่วยโรคหัวใจ มะเร็งเม็ดเลือดขาว โรคคาวาซากิ โรคปากแหว่งเพดานโหว่ โรคตามฤดูกาล และผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ รวมถึงเด็กที่เปราะบางด้านเศรษฐกิจและสังคม อาทิ เด็กไร้รัฐ เด็กที่ย้ายถิ่นตามครอบครัว และเด็กไทยที่ไม่มีทะเบียนเกิด ซึ่งมักไม่ได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานด้านการรักษาพยาบาล เพื่อให้พวกเขาได้รับการดูแลรักษาที่เหมาะสมและมีโอกาสเติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพ
โครงการ Every Dream Matters นี้ได้รับการสนับสนุนงบประมาณการดำเนินงานจาก บริษัท เจวายพี เอนเตอร์เทนเมนต์ บริษัทชั้นนำด้านการดูแลศิลปินและค่ายเพลงยักษ์ใหญ่จากประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์โอกาสและความเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนให้กับเด็กๆ เหล่านี้
คุณรสลิน โกแวร์ ผู้อำนวยการมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย กล่าวถึงที่มาของการร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในโครงการ Every Dream Matters
“มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย ดำเนินงานมาแล้วกว่า 50 ปี โดยมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็ก โดยเฉพาะเด็กในกลุ่มเปราะบางและขาดโอกาส เพื่อให้พวกเขาได้มีชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน เราทำงานเชิงพัฒนาในพื้นที่ต่างๆ ผ่านการดูแลและเยี่ยมเยียนเด็กอย่างใกล้ชิด พบว่าหลายครอบครัวต้องสูญเสียเด็กจากปัญหาความยากจน ระยะทางที่ห่างไกล และการเข้าไม่ถึงบริการทางการแพทย์ ดังนั้น สุขภาพ จึงเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของงานที่เรามุ่งเน้น
วันนี้เราขอขอบคุณโรงพยาบาลนครพิงค์ ที่ให้โอกาสในการทำงานร่วมกัน โดยได้รับการสนับสนุนทุนจาก บริษัท เจวายพี เอนเตอร์เทนเม้นท์ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือเด็กกลุ่มเปราะบางที่ไม่มีค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล การทำงานร่วมกับโรงพยาบาลเป็นแนวทางสำคัญในการเข้าถึงเด็กและครอบครัวในพื้นที่ห่างไกล เราหวังว่า ความช่วยเหลือในครั้งนี้จะสร้างผลกระทบที่ดีต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของเด็กและครอบครัว เพื่อให้พวกเขามีชีวิตที่มีคุณภาพและความสุขต่อไปในอนาคต”
ทางด้าน นายแพทย์พงษ์ศักดิ์ โสภณ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพิงค์ เชียงใหม่ กล่าวถึงความพร้อมในการรองรับการดำเนินโครงการฯ
“โรงพยาบาลนครพิงค์ เป็นโรงพยาบาลศูนย์ขนาดใหญ่ มีพันธกิจในการดูแลผู้ป่วยจากจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน และแม่ฮ่องสอน โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเปราะบางที่มีทั้งปัญหาด้านสุขภาพในระดับพื้นฐานและความซับซ้อนขั้นสูง ทางโรงพยาบาลมีการสนับสนุนผู้ป่วยผ่านกองทุนต่างๆ และการดูแลที่ไม่คิดค่าใช้จ่ายในหลายกรณี
ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญที่โรงพยาบาลจะได้ร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อดำเนินงานตามเป้าหมายที่สอดคล้องกัน นั่นคือ การช่วยเหลือเด็กกลุ่มเปราะบางอย่างทั่วถึง เราเชื่อมั่นว่าความช่วยเหลือที่ได้รับจะสามารถส่งต่อไปยังเด็กๆ ที่ต้องการการดูแลอย่างแท้จริง เราคาดหวังอย่างยิ่งว่าจะได้ทำงานร่วมกันในระยะยาว เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ดีและยั่งยืนสำหรับเด็กในพื้นที่ชายขอบทั้งหมด ผมขอขอบคุณทุกท่านแทนเด็กๆ ที่จะได้รับประโยชน์จากการสนับสนุนในครั้งนี้ ขอบคุณครับ”
ครอบครัวเผชิญความยากลำบาก แต่ยังมีความหวังจากการช่วยเหลือ
นายหลาว คำเขียว คุณพ่อของ นายสถาพร หรือ “น้องจุ๋ย” วัย 17 ปี เล่าให้ฟังถึงสถานการณ์ที่ครอบครัวต้องเผชิญว่าเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากอย่างมาก ครอบครัวยังคงอาศัยบ้านเช่า และแม้จะมีรายได้จากงานรับจ้างก่อสร้างของตน และงานรับจ้างในร้านอาหารของภรรยา แต่รายได้เหล่านี้ยังไม่เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะค่ารักษาพยาบาลที่ต้องใช้สำหรับการดูแลน้องจุ๋ยอย่างต่อเนื่อง
ด้วยน้องจุ๋ยประสบปัญหาสุขภาพจากการติดเชื้อในปอด ซึ่งทำให้ปอดข้างหนึ่งเสียหายจนไม่สามารถใช้งานได้ และส่งผลให้เขามีอาการหายใจลำบาก รวมถึงภาวะหัวใจหยุดเต้นเป็นระยะ จำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง
“ผมรู้สึกดีใจที่ได้รับความช่วยเหลือจากโครงการ Every Dream Matters เพราะมันทำให้ผมมีความหวังที่จะกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติอีกครั้ง ผมอยากกลับไปเรียนหนังสือ และเดินตามความฝัน โตขึ้นผมอยากเป็นนักดนตรีครับ” น้องจุ๋ย กล่าวด้วยความมุ่งมั่นและเปี่ยมด้วยความหวัง
นายหลาว ยังได้กล่าวด้วยความซาบซึ้งว่า “ผมขอขอบคุณโครงการ Every Dream Matters ที่ช่วยเหลือครอบครัวของเรา การสนับสนุนครั้งนี้ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายได้มาก เพราะที่ผ่านมาเราไม่มีใครยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในลักษณะนี้เลย ขอบคุณมากครับ”
การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการร่วมสร้างสังคมที่มีความเสมอภาคและความเอื้ออาทร โดยหวังว่าโครงการนี้จะสามารถพลิกโอกาสชีวิตของเด็กที่อยู่ในกลุ่มเปราะบางให้มีอนาคตที่สดใสและเติมเต็มทุกความฝันที่มีค่าอย่างแท้จริง