กระทรวงสาธารณสุขได้สรุปสถานการณ์ด้านการอนามัยเจริญพันธุ์ของประเทศไทยว่า “เด็กเกิดน้อย ด้อยคุณภาพ” อัตราการเกิดของเด็กลดลงเหลือเพียงไม่เกิน 8 แสนคนต่อปี ในขณะที่มีปัญหาด้านอนามัยแม่และเด็กเพิ่มขึ้น ทั้งอัตราการตายมารดา อัตราการตายทารก ทารกคลอดก่อนกำหนด สัดส่วนคุณแม่วัยใส 25 ต่อ 1,000 ประชากร รวมไปถึงการเลี้ยงดูลูกด้วยนมแม่ที่ลดน้อยลงจนน่าใจหาย ยังไม่นับรวมเด็กปฐมวัยที่มีพัฒนาการไม่สมวัย
ในระดับนโยบายได้มีความพยายามแก้ไขปัญหาด้านการอนามัยเจริญพันธุ์ของประเทศโดยกำหนดเป็น แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาอนามัยการเจริญพันธุ์แห่งชาติ ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2560 – 2569) ว่าด้วยการส่งเสริมการเกิดและการเติบโตอย่างมีคุณภาพ
แน่นอนว่าลำพังระดับนโยบายหรือการขับเคลื่อนโดยภาครัฐเพียงฝ่ายเดียวย่อมยากที่จะบรรลุเป้าหมายมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย โดยการสนับสนุนจาก กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย จึงได้ร่วมกันดำเนินงาน โครงการส่งเสริมสุขภาพทางเพศและอนามัยการเจริญพันธุ์ของวัยรุ่น (Adolescent sexual and reproductive health promotion program in the new normal (Freedom PROJECT) มุ่งให้ความสำคัญและส่งเสริมความรู้ทางเพศและอนามัยเจริญพันธุ์ของวัยรุ่น ให้เด็กและเยาวชนในพื้นที่ห่างไกลของประเทศ และเยาวชนกลุ่มเปราะบาง ได้มีการเติบโตอย่างมีคุณภาพ รวมถึงการส่งเสริมความเข้าใจและยอมรับในความแตกต่างของเพศวิถีและเคารพสิทธิของเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ตลอดจนสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงผ้าอนามัยซึ่งจำเป็นสำหรับการรักษาอนามัยการเจริญพันธุ์ในราคาประหยัด
โครงการฯ ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตลอด 1 ปี และได้มีการจัดกิจกรรมสรุปและส่งมอบโครงการฯ ไปเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2023 ที่ผ่านมา โดยจัดเป็น กิจกรรมสร้างความเข้าใจให้วัยรุ่นเพื่อชีวิตคุณภาพณ โรงเรียนแก่งหางแมวพิทยาคาร จ.จันทบุรี ซึ่ง คุณนุช เบญจพรบัญญัติ ผู้จัดการด้านการวางแผนและวิเคราะห์กลยุทธ์ทางธุรกิจ และ คุณพรธิชา วงศ์ยานนาวา เจ้าหน้าที่กิจการเพื่อสังคม ในฐานะตัวแทนจาก กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย ได้เดินทางมาร่วมทำกิจกรรมด้วย ทั้งนี้โดยมี ดร.สราวุธ ราชศรีเมือง ผู้อำนวยการมูลนิธิศุภนิมิตฯ และ นางสาวอัจฉรา สาหุทัศ ผู้อำนวยการโรงเรียนแก่งหางแมวพิทยาคาร ให้การต้อนรับ ภายในงานยังได้รับเกียรติจาก คุณพนมพร ห่วงมาก ข้าราชการบำนาญ (พยาบาลวิชาชีพ) มาบรรยายในหัวข้อ “เรื่องเพศพูดได้” ให้กับน้องๆ นักเรียนอีกด้วย
“โครงการนี้เกิดจากการที่เราอยากให้น้องๆ เยาวชนที่เขาลำบากได้เข้าถึงของใช้จำเป็นอย่างผ้าอนามัยซึ่งเป็นของจำเป็นสำหรับผู้หญิง แต่ราคาค่อนข้างสูง แล้วเราก็ขยายผลมาสู่การส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับเพศศึกษา อนามัยเจริญพันธุ์ สำหรับเด็กที่เริ่มเติบโตสู่วัยรุ่น ซึ่งเรายังให้ความสำคัญกับการเคารพและให้เกียรติกันระหว่างเพศด้วย ซึ่งทั้งหมดคือการพัฒนาให้เด็กและเยาวชนได้เติบโตอย่างมีคุณภาพ” คุณนุช เบญจพรบัญญัติ ผู้จัดการด้านการวางแผนและวิเคราะห์กลยุทธ์ทางธุรกิจ กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าว
ด.ญ.เจนจิรา นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ได้เล่าถึงประโยชน์ที่พวกเธอได้รับจากการเข้าร่วมโครงการฯ ว่า “มันไม่ใช่แค่ความเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายเมื่อเราโตเป็นวัยรุ่นเท่านั้นนะคะ มันมีทั้งเรื่องของฮอร์โมน ความรู้สึก อย่างพวกหนูพอมีประจำเดือนเท่ากับเราสามารถตั้งครรภ์ได้ คุณหมอได้สอนให้พวกเราเข้าใจเกี่ยวกับความรู้สึกทางเพศ การวางตัวและให้เกียรติกันระหว่างหญิงชาย แล้วก็เรื่องการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่มีการป้องกันด้วยค่ะ ซึ่งมันเสี่ยงต่อทั้งโรคติดต่อต่างๆ และการตั้งครรภ์ในวัยเรียนด้วย”
อีกหนึ่งเสียงจาก ด.ญ.นราทิพย์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 สะท้อนสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นจากโครงการฯ นี้ว่า “ที่โรงเรียนตอนนี้มีตู้จำหน่ายผ้าอนามัยค่ะ หนูมักลืมค่ะว่าถึงช่วงที่ประจำเดือนจะมาแล้ว ก็ลืมนำผ้าอนามัยพกติดตัว ต้องขอยืมจากเพื่อนหรือครูค่ะ มันเป็นของใช้ส่วนตัวที่จำเป็น พอมีตู้จำหน่ายผ้าอนามัย แถมราคาก็ประหยัดด้วย ทำให้หนูและเพื่อนๆ สามารถรักษาความสะอาดร่างกายในช่วงที่พวกเรามีประจำเดือน ชีวิตดีขึ้นมากเลยค่ะ”
ทั้งนี้ ดร.สราวุธ ราชศรีเมือง ได้สรุปภาพรวมการดำเนินงานโครงการฯ ว่า “โครงการส่งเสริมสุขภาพทางเพศและอนามัยการเจริญพันธุ์ของวัยรุ่น ดำเนินการใน 2 จังหวัด คือ บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ระยอง โรงเรียนบ้านวังไม้แดง และโรงเรียนแก่งหางแมวพิทยาคาร จ.จันทบุรี ตลอด 1 ปี มีเด็กและเยาวชนมากกว่า 2,100 คนได้เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ซึ่งเป็นการพัฒนาให้เด็กและเยาวชนสามารถเติบโตอย่างมีคุณภาพ และยังเป็นพื้นฐานนำไปสู่คุณภาพด้านการอนามัยเจริญพันธุ์ของประเทศต่อไปด้วย ผมขอขอบคุณกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย เป็นอย่างสูงสำหรับการสนับสนุนโครงการฯ ในครั้งนี้ ความร่วมมือทั้งจากภาคเอกชน ภาครัฐ ภาคประชาสังคม สถานศึกษา ที่ได้เกิดขึ้นจากการดำเนินงานโครงการฯ นี้ คือตัวอย่างหนึ่งของการร่วมมือเพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน”