เป็นเวลา 50 ปีแล้ว ที่มูลนิธิศุภนิมิตฯ ก้าวเดินบนเส้นทางการเป็นองค์กรคริสเตียนเพื่อการพัฒนาและสาธารณกุศล ที่มีเป้าหมายเพื่อนำการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนมาสู่ชีวิตเด็กยากไร้รวมถึงครอบครัวและชุมชน ให้ได้รับอนาคตที่ดีขึ้น ได้รับการศึกษา ได้มีสุขภาพ อนามัยและโภชนาการที่ดี ได้รับการปกป้องคุ้มครอง เพื่อให้เด็กทุกคนเติบโตขึ้นพร้อมกับการมีชีวิตที่ครบบริบูรณ์ โดยไม่มีการแบ่งแยก ศาสนา เชื้อชาติ และเพศ
นับแต่ปี 1972 ที่ศุภนิมิตสากลได้เริ่มดำเนินพันธกิจการพัฒนาในประเทศไทย ด้วยการเริ่มต้นสนับสนุนทุนการศึกษาให้เด็กกำพร้าใน จ.เพชรบุรี ซึ่งขณะนั้นมีเจ้าหน้าที่เพียง 5 คน
หลังจากนั้นในปี 1974 มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย ได้จดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มูลนิธิศุภนิมิตฯ ได้เริ่มดำเนินโครงการให้ความช่วยเหลือผู้ลี้ภัยจากสงครามอินโดจีนในระหว่างปี 1975-1977 ซึ่งเป็นวิกฤติการณ์ทางการเมืองและสงครามในภูมิภาคเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในประเทศเวียดนาม ลาว และกัมพูชา ทำให้มีผู้ลี้ภัยจำนวนมากหนีสงครามเข้ามาในประเทศไทย โดยเรามีการสนับสนุนสิ่งของที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตการดำเนินงานของมูลนิธิศุภนิมิตฯ ในช่วงเวลานี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมในระดับสากล โดยร่วมมือกับองค์กรระหว่างประเทศและรัฐบาลไทย
ในปี 1978 มูลนิธิศุภนิมิตฯ ได้เริ่มปรับเปลี่ยนการดำเนินพันธกิจจากเดิมที่มอบทุนการศึกษาแก่เด็กเป็นรายๆ มาสู่การพัฒนาครอบครัว และเปิดสำนักงานแห่งใหม่ที่ จ.เชียงใหม่
ปี 1980-1982 มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทยได้ปรับบทบาทการดำเนินงานจากการเน้นสงเคราะห์มาเป็นการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน โดยมีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาความเปราะบางยากไร้ให้เด็ก ครอบครัว และชุมชน โดยมีพื้นที่ดำเนินงานครอบคลุมทั้งชนบทและเขตเมือง เพื่อให้เข้าถึงความต้องการที่หลากหลายของชุมชนในแต่ละภูมิภาค ซึ่งในช่วงนี้เองที่มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทยได้มีผู้อำนวยการที่เป็นคนไทยคนแรก คือ นายวัฒนพงศ์ สันตติวัฒน์
และระหว่างปี 1983-1989 มูลนิธิศุภนิมิตฯ ได้ขยายขอบเขตการทำงานไปสู่ด้านการสนับสนุนการศึกษา สุขภาพ การช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ฉุกเฉิน สิ่งแวดล้อม การพัฒนาเศรษฐกิจ และการรณรงค์สร้างจิตสำนึก พื้นที่ดำเนินโครงการครอบคลุมถึง 34 จังหวัดทั่วประเทศไทย มูลนิธิฯ ได้พัฒนากลยุทธ์การทำงานที่เน้นให้ชุมชนเป็นศูนย์กลาง ชุมชนมีบทบาทสำคัญในการประเมินปัญหาและเสนอความต้องการในการพัฒนาด้วยตนเอง ทำให้การพัฒนามีความยั่งยืนและตอบสนองความต้องการของชุมชน
การเปลี่ยนแปลงสำคัญของมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทยในช่วงปี 1990-1999 ได้ส่งผลให้เกิดการพัฒนาชุมชนแบบยั่งยืนอย่างเกิดผล โดยในปี 1990 มูลนิธิศุภนิมิตฯ ได้ปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์การพัฒนาองค์กร โดยมุ่งเน้นการดำเนินงานผ่านโครงการพัฒนาชุมชนเป็นพื้นที่แบบพึ่งพาตนเองและยั่งยืน โดยมีเด็กเป็นศูนย์กลาง เพื่อให้เกิดการพัฒนาชุมชนที่ยั่งยืนและเข้มแข็ง และในปี 1991 จำนวนเด็กที่ได้รับความช่วยเหลือผ่านโครงการอุปการะเด็กเพิ่มขึ้นเป็น 61,512 คน ซึ่งสะท้อนถึงความสำเร็จของยุทธศาสตร์ใหม่ที่มุ่งเน้นการพัฒนาที่ครอบคลุมทุกด้าน
ปี 1992 มูลนิธิศุภนิมิตฯ เริ่มงานระดมทุนภายในประเทศเป็นครั้งแรก โดยมีเด็กได้รับการอุปการะ 81 คน มีผู้อุปการะ 81 คน และผู้บริจาค 22 คน ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความร่วมมือและการสนับสนุนจากคนในประเทศ
ปี 1998 มูลนิธิศุภนิมิตฯ ได้เริ่มจัดตั้งโครงการรณรงค์ให้ความรู้และการป้องกันโรคเอดส์ เพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อร้ายแรง ซึ่งโครงการนี้ได้รับทุนสนับสนุนจากทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อให้เด็ก ครอบครัว และชุมชน มีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ในปี 2000-2010 มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในการให้ความช่วยเหลือเด็ก ครอบครัว และชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติและวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ในประเทศไทย หนึ่งในเหตุการณ์ที่เป็นที่จดจำอย่างมากคือคลื่นยักษ์สึนามิที่ถล่มภาคใต้ของประเทศไทยในปี 2004 ซึ่งทำให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินอย่างมหาศาล
มูลนิธิศุภนิมิตฯ ในฐานะองค์กรคริสเตียนเพื่อการพัฒนาและสาธารณกุศล ได้เร่งดำเนินพันธกิจเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง โดยมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์ที่จำเป็น เช่น อาหาร น้ำดื่ม ยา และเสื้อผ้า พร้อมกับดำเนินโครงการฟื้นฟูเยียวยาผู้ประสบภัยต่อเนื่องเป็นเวลา 5 ปี โครงการฟื้นฟูผู้ประสบภัยสึนามิประกอบด้วยการสร้างบ้านใหม่จำนวน 541 หลัง และการซ่อมแซมบ้านที่ได้รับความเสียหายอีกกว่า 300 หลัง เพื่อให้ผู้ประสบภัยมีที่อยู่อาศัยที่ปลอดภัยและมั่นคง
ปี 2008 มูลนิธิศุภนิมิตฯ ยังได้ขยายความช่วยเหลือไปใน 10 จังหวัดทีู่้ประสบอุทกภัยในประเทศไทย และยังได้ส่งความช่วยเหลือไปยังต่างประเทศ เช่น เมียนมา ที่ประสบพายุนาร์กีส และจีน ที่เกิดแผ่นดินไหว
นอกจากงานบรรเทาทุกข์ฉุกเฉินแล้ว มูลนิธิศุภนิมิตฯ ยังได้ริเริ่มโครงการเพื่อพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของเด็กในพื้นที่ห่างไกล โดยเฉพาะในด้านโภชนาการ
อีกทั้ง มูลนิธิศุภนิมิตฯ ยังได้ร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนในจังหวัดชลบุรี เพื่อจัดตั้งเครือข่ายการคุ้มครองเด็ก มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันการล่วงละเมิดเด็กและส่งเสริมสิทธิของเด็กให้ได้รับการดูแลและคุ้มครอง
ในช่วงระยะเวลาตั้งแต่ปี 2010 – 2020 มูลนิธิศุภนิมิตฯ ได้ทำงานอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็ก ครอบครัว และชุมชนที่เปราะบางทั่วประเทศ โดยเน้นเสริมสร้างให้ชุมชนมีความเข้มแข็งและมีส่วนร่วม เพื่อนำสู่ความอยู่ดีมีสุข ตามยุทธศาสตร์การพัฒนาเด็กตามช่วงวัยอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ยังเริ่มโครงการตอบสนอง COVID-19 ซึ่งเข้าถึงผู้ได้รับผลกระทบจากวิกฤตนี้ถึง 574,500 คน
ซึ่งในปี 2021 – 2023 เป็นอีกครั้งที่มูลนิธิศุภนิมิตฯ ได้มีปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์การดำเนินพันธกิจ โดยมีเป้าหมาย “ตอบสนองและช่วยเหลือเด็กที่อยู่ในภาวะเปราะบางให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น 3 ล้านคน ภายในปี 2025 และในปี 2024 มูลนิธิศุภนิมิตฯ ได้รับคัดเลือกเป็นหน่วยงานรับทุนหลักของกองทุนโลก (The Global Fund) ในการดำเนินโครงการยุติปัญหาวัณโรคและเอดส์ ด้วยชุด RRTTPR หรือ Stop TB and AIDS through RRTTPR (STAR4) ซึ่งจะดำเนินการในช่วงปี 2024-2026
ซึ่งเป็นผลให้มูลนิธิศุภนิมิตฯ ได้รับการยอมรับ และได้รับรางวัลจากหลากหลายหน่วยงาน
ปี 2011 ได้รับ “รางวัลองค์กรพัฒนาเอกชนยอดเยี่ยมแห่งปี” จากสถาบันคีนันแห่งเอเชีย
ปี 2013 ได้รับ “รางวัลผู้ปฏิบัติงานป้องกันการค้ามนุษย์ดีเด่น” จากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ปี 2019 ได้รับ “รางวัลทีมผู้ก่อการดีระดับทอง” จากสำนักงานโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ในฐานะองค์กรที่มีการดำเนินงานปกป้องคุ้มครองเด็กจากความเสี่ยงการเสียชีวิตเพราะจมน้ำ
ปี 2020 มูลนิธิศุภนิมิตฯ ได้รับ “รางวัลผู้มีคุณูปการต่อการศึกษาของชาติ” จากกระทรวงศึกษาธิการ และ“รางวัลองค์กรทำคุณประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน” จากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ปี 2022 ได้รับ “รางวัลองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชนดีเด่น (Human Rights Award)” จากกระทรวงยุติธรรม และ “รางวัลเกียรติคุณ กศน. ดีเด่นระดับประเทศ” จากกระทรวงศึกษาธิการ
ปี 2023 ได้รับ “รางวัลพระพฤหัสบดี ประจำปี 2566” จากกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะผู้มีคุณูปการและเป็นแบบอย่างที่ดีในด้านสวัสดิการในการสนับสนุนด้านการศึกษา และ “รางวัลหน่วยงานดีเด่น” จากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ในการสนับสนุนภารกิจด้านการป้องกันควบคุมโรคระหว่างประเทศ และประชากรข้ามชาติในประเทศไทย
มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย เรายังคงก้าวต่อไปด้วยความมุ่งมั่น อุทิศ และทุ่มเท เพื่อนำความเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนมาสู่ชีวิตของเด็กยากไร้ รวมถึงครอบครัวและชุมชน โดยการทำพันธกิจร่วมกับหุ้นส่วนต่างๆ ทั้งหน่วยงานภาครัฐระดับประเทศและท้องถิ่น ภาคธุรกิจ ภาคการศึกษา คริสตจักร ภาคประชาสังคม สื่อมวลชน ผู้อุปการะรายบุคคล และกลุ่มผู้มีภาระใจ เพื่อสนับสนุนให้เด็กมีคุณภาพชีวิตที่ดี และเติบโตเป็นกำลังสำคัญของชาติต่อไป