ห้องเรียนพ่อแม่ ‘การเลี้ยงดูเด็กเชิงบวก’

มูลนิธิสายเด็ก 1387 จับมือมูลนิธิศุภนิมิตฯ เปิดห้องเรียนพ่อแม่ที่ อบต.บึงทองหลาง จ.ปทุมธานี ร่วมค้นพบความหมายของ ‘การเลี้ยงดูเด็กเชิงบวก

เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2568 ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 25) พ.ศ.2568 หรือที่เรียกกันว่า “กฎหมายไม่ตีเด็ก” ห้ามมิให้มีการลงโทษเด็กด้วยความรุนแรงทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นในบ้าน โรงเรียน สถานสงเคราะห์ ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน หรือศูนย์รับเลี้ยงเด็ก ทั้งนี้ พ่อแม่ ผู้ปกครอง รวมถึงผู้เลี้ยงดูเด็กยังคงมีสิทธิที่จะว่ากล่าวตักเตือนหรือปรับพฤติกรรมเด็กได้ แต่ต้องไม่ใช้ความรุนแรง โดยกฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป

ทว่าเพียงบทบัญญัติที่มีผลทางกฎหมายอาจจะยังไม่เพียงพอที่จะเปลี่ยนความเชื่อ ‘รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี’ ที่ฝังรากลึกอยู่ในสังคมไทย และยังคงต้องตั้งคำถามต่อไปว่ากฎหมายไม่ตีเด็กนี้เพียงพอแล้วหรือยังสำหรับการบรรลุผลในการปกป้องสิทธิเด็กตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กของสหประชาชาติ ข้อท้าทายนี้คือสิ่งที่ทุกภาคส่วนจะต้องร่วมกันลงมือทำอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทัศนคติทางวัฒนธรรมเกี่ยวกับการเลี้ยงดูเด็กของสังคมไทย

เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความเข้าใจและเสริมสร้างทักษะการเลี้ยงดูเด็กที่เคารพสิทธิเด็ก เมื่อวันที่ 20-21 ตุลาคมที่ผ่านมา มูลนิธิสายเด็ก 1387 ได้จับมือกับ มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย และ องค์การบริหารส่วนตำบลบึงทองหลาง จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการ ห้องเรียนพ่อแม่ ‘การเลี้ยงดูเด็กเชิงบวก’ ภายใต้หลักสูตร ‘ครอบครัวสุขสันต์ของมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย’ ท้าชวนพ่อแม่ ผู้ปกครอง และผู้ดูแลเด็กในพื้นที่ อบต.บึงทองหลาง อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี รวมกว่า 120 คน มาร่วมกันค้นพบแนวทางการเลี้ยงดูเด็กเชิงบวกในแบบที่เหมาะสมสำหรับแต่ละครอบครัว

“มูลนิธิสายเด็ก 1387 ได้ริเริ่มแคมเปญประเทศนี้ไม่ตีเด็ก เพื่อชี้ให้เห็นถึงผลกระทบด้านลบของการลงโทษเด็กและสนับสนุนวิธีการเลี้ยงดูเด็กเชิงบวกที่ส่งเสริมพัฒนาการที่ดี โดยการอบรมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานภายใต้โครงการ SUFASEC (Stand Up For Safeguarding and Ending Sexual Exploitation of Children) โดยการสนับสนุนจาก Down to Zero, CRC Asia และกระทรวงการต่างประเทศ ประเทศเนเธอร์แลนด์” คุณสุพิศ์ชญาตย์ อารีวงศ์ มูลนิธิสายเด็ก 1387 กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการอบรมเชิงปฏิบัติการ

เพราะการเปลี่ยนทัศนคติเกี่ยวกับการเลี้ยงดูเด็กไม่ใช่เรื่องง่าย มูลนิธิศุภนิมิตฯ ในฐานะผู้ออกแบบเนื้อหาและกระบวนการอบรมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้จึงได้นำ หลักสูตรครอบครัวสุขสันต์ของมูลนิธิศุภนิมิตฯ ซึ่งเป็นหลักสูตรสำหรับส่งเสริมพ่อแม่ให้เกิดความตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ของตนเองในการเลี้ยงดูเด็ก ทั้งการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย มีความรัก ความเอาใจใส่ บนรากฐานคุณค่าของสถาบันครอบครัวและคุณค่าความเป็นมนุษย์ของสมาชิกทุกคนในครอบครัว เป็นแกนหลักบูรณาการเข้ากับเนื้อหาความรู้ สิทธิเด็ก การปกป้องคุ้มครองเด็ก ความรุนแรงต่อเด็กและผลกระทบเชิงลบจากการลงโทษเด็กด้วยความรุนแรง การพูดคุยกับลูกเรื่องเพศ(ไม่เท่ากับ)เพศสัมพันธ์ การป้องกันการแสวงประโยชน์ทางเพศต่อเด็ก และ 10 วิธีการเลี้ยงดูเด็กเชิงบวก

“เป้าหมายของการอบรมเชิงปฎิบัติการในครั้งนี้ เราต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทัศนคติและพฤติกรรมในการเลี้ยงดูเด็กเชิงบวก รวมถึงความตระหนักในบทบาทของพ่อแม่ในการคุ้มครองเด็กด้วย กระบวนการที่เราใช้จึงมุ่งเน้นการเรียนรู้ที่มุ่งการเปลี่ยนแปลง (Transformative Learning) ที่ไม่ใช่การถ่ายทอดเนื้อหาความรู้แต่มุ่งให้ผู้เข้าร่วมอบรมเป็นผู้สร้างชุดเนื้อหาที่เป็นแบบเฉพาะของแต่ละครอบครัว รวมถึงกิจกรรมกระบวนการที่ให้พ่อแม่เกิดการเปลี่ยนแปลงจากภายในผ่านการคิดใคร่ครวญ การแลกเปลี่ยนและสะท้อนผลกับผู้อื่น รวมถึงการบันทึกและลงมือเขียนกำหนดเป้าหมายที่พ่อแม่แต่ละคนมุ่งหวังที่จะลงมือทำเพื่อให้เกิดความอยู่ดีมีสุขแก่เด็กในความดูแลของพวกเขา” คุณอมรพจี อุปมัย Child Protection & Advocacy Advisor มูลนิธิศุภนิมิตฯ เพิ่มเติมรายละเอียดในจัดกิจกรรมกระบวนการ

คุณแม่ออย-นางชุลีพร แพน้อย อายุ 36 ปี ที่มาพร้อมกับบุตรสาว ด.ญ.ออมสิน อายุ 10 ปี ได้แบ่งปันประสบการณ์และความคิดเห็นเกี่ยวกับการอบรมเชิงปฏิบัติการฯ ในครั้งนี้ว่า “เนื้อหาการอบรมมีประโยชน์ทุกเรื่อง แต่เรื่องที่สำคัญและประทับใจที่สุดคือการคุยกับลูกเรื่องเพศ ได้แนวทางที่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริงในการคุยให้ความรู้เรื่องเพศซึ่งจะช่วยให้น้องออมสินเข้าใจการดูแลตัวเอง รู้ว่าส่วนใดของร่างกายที่สมควรและไม่สมควรให้ผู้อื่นสัมผัส ซึ่งจะช่วยให้ลูกสามารถปกป้องตัวเองได้ สำหรับคุณแม่ออย การเลี้ยงดูลูกเชิงบวกคือการสื่อสารกันอย่างเปิดอกและพูดคุยกันทุกเรื่อง กับน้องออมสินเมื่อมีปัญหาหรือข้อสงสัย ลูกจะบอกและถามทุกเรื่อง และเราก็จะให้คำแนะนำเสมอว่าสิ่งใดควรหรือไม่ควรพูด และสอนให้คิดก่อนพูดทุกครั้ง”

‘รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี’ อาจจะไม่ใช่วิถีที่เหมาะสมอีกต่อไปแล้วสำหรับการเลี้ยงดูเด็กในปัจจุบัน… แล้วสำหรับ ‘คุณ’ ล่ะ วิธีการเลี้ยงดูเด็กเชิงบวกของคุณเป็นอย่างไร?

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ป้ายกำกับ
Child Rights Climate Change CSR Migrant SDG กลุ่มชาติพันธุ์ การจัดการภัยบิบัติ การจัดการภัยพิบัติ การตีตราและเลือกปฏิบัติ การพัฒนาสถานศึกษา การมีส่วนร่วมของเด็ก ครอบครัวสุขสันต์ ความยั่งยืน ความยุติธรรมในสังคม ความยุติธรรมในสังคม (Social Justice) ความรับผิดชอบต่อสังคม ความรุนแรงต่อเด็ก ความเชื่อและการพัฒนา งานรณรงค์เพื่อเด็ก จิตอาสา ทักษะชีวิตเยาวชน ทักษะอาชีพเยาวชน นโยบายการพัฒนาเด็ก น้ำเพื่อชีวิต บริการสุขภาพขั้นพื้นฐาน บริจาคทุนการศึกษา บริจาคเงิน ปกป้องคุ้มครองเด็ก ประชากรข้ามชาติ ผู้นำเยาวชน พัฒนาชุมชน ภัยพิบัติ ยุติวัณโรค/End TB ยุติเอดส์/Stop AIDS สังคมแห่งการแบ่งปัน สิทธิมนุษยชน สิทธิเด็ก ส่งน้องจบ ป-ตรี อดีตเด็กในความอุปการะ เด็กข้ามชาติ เด็กยากไร้ เด็กไร้รัฐ เสียงเด็กและเยาวชน แรงงานข้ามชาติ/ประชากรข้ามชาติ แรงงานต่างชาติ

ข่าวอื่นๆ

รางวัลแห่งการเปลี่ยนแปลง เพื่ออนาคตที่เท่าเทียมของเด็กทุกคน

มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทยคว้า 3 รางวัลเกียรติคุณจากงาน “Bringing the light for the Human Rights นำแสงสว่างสู่สิทธิมนุษยชน” โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม
อ่านต่อ »

สบายดีบ๋อ ไปโตยกั๋นก่อ ไปแอ๋วหาละอ่อนเมืองปาน 

มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย ชวนผู้ใหญ่ใจดี เดินทางไปเยี่ยมชมการทำงาน เรียนรู้วิถีชีวิตของคนในชุมชนแบบใกล้ชิด พร้อมมอบของขวัญและสิ่งจำเป็นให้กับเด็กๆ จ.ลำปาง
อ่านต่อ »
0