“ตอนเด็กผมอยู่กับตายาย พ่อผมมีอาชีพขับรถสิบล้อ แม่ทำงานก่อสร้างถนนในต่างจังหวัด นานๆ ทีถึงจะกลับบ้านและได้เจอกัน ข้าวน้ำพริก ผักกระถิน คืออาหารหลักของผมตอนเป็นเด็ก ขนมแทบจะไม่เคยได้กิน เมื่อผมเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-5 ก็ไปเป็นเด็กวัด หลังจบ ปวช. ผมสอบติด 4 มหาวิทยาลัยในสาขาวิศวกรรมศาสตร์ และสาขาคอมพิวเตอร์ แต่เลือกสละสิทธิ์และออกทำงานเพื่อให้น้องสาวได้มีโอกาสเรียนต่อ ปัจจุบันผมเป็นเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัย เทศบาลตำบลบ้านแปะ และเป็นครูฝึกนักประดาน้ำกู้ภัยของจังหวัดเชียงใหม่ครับ” นี่คือเรื่องเล่าอย่างย่อของ ต้นกล้า–นายดิษย์กร ปาตีคำ อายุ 33 ปี อดีตเด็กในความอุปการะ โครงการพัฒนาฯ บ้านแปะ จ.เชียงใหม่
อุปกรณ์การเรียน และชุดนักเรียนใหม่ ที่ได้รับหลังจากมีผู้อุปการะตอนอยู่ชั้นประถม 3 เติมความสุขให้กับเด็กชายต้นกล้า ในช่วงวัยรุ่น ต้นกล้า สนุกกับกิจกรรมทักษะชีวิตเยาวชนจนพัฒนาศักยภาพเป็นประธานเยาวชนศุภนิมิตฯ บ้านแปะ และโดยที่ต้นกล้าไม่รู้ตัว เมล็ดพันธุ์การมีจิตอาสาและความต้องการช่วยเหลือผู้อื่นๆ ได้ถูกเพาะลงในใจและกายของเขาแล้ว เราได้เห็นสิ่งนี้ชัดเจนในชีวิตการงานของเขา
“งานแรกที่ผมทำคือเป็นช่างในโรงแรม ก่อนจะย้ายมาเป็นช่างในโรงพยาบาล ผมได้เห็นคนไข้อุบัติเหตุ ได้เห็นความเจ็บป่วยฉุกเฉิน พอผมมีโอกาสก็ไปสมัครจนได้บัตรอาสาสมัครฉุกเฉินการแพทย์ (EMR) ซึ่งผมใช้ในมาทำงานด้านการแพทย์ฉุกเฉินและงานการบรรเทาสาธารณภัยที่เทศบาลบ้านแปะ ผมจริงจังมากและคอยฝึกอบรมเพิ่มเติม และทำอยู่จนปัจจุบัน”


การฝึกอบรมที่ ต้นกล้า กล่าวถึงมีทั้งการกู้ภัยทางสูง การช่วยเหลือรถตกเขา ตกช่องแคบ ทำงานกู้ภัยด้วยเชือก เป็นนักประดาน้ำกู้ภัย จนปัจจุบันต้นกล้าคือนักประดาน้ำกู้ภัยฝีมือดีจนได้รับการยอมรับให้เป็นครูฝึกนักประดาน้ำกู้ภัย รวมถึงการเป็นแกนนำก่อตั้งชมรมตอบโต้ภัยพิบัติอำเภอจอมทอง เป็นกลุ่มจิตอาสาให้ความช่วยเหลือบรรเทาสาธารณภัย

“มูลนิธิศุภนิมิตฯ สอนให้เรารู้จักการแบ่งปันให้ผู้อื่นๆ รักและกลมเกลียวกัน ผมเป็นผู้รับมาการที่ผมได้เป็นครู ได้ฝึกรุ่นน้องๆ ก็คือการให้โอกาสกับเขา ผมอยากบอกท่านผู้อุปการะเล่าชีวิตของผมในทุกวันนี้ ขอบคุณที่ท่านอุปการะผม ถ้าไม่มีท่าน ผมคงไม่มีโอกาสส่งต่อความช่วยเหลือไปให้กับผู้อื่น ผมจะทำให้มากขึ้นในการเผื่อแผ่ประโยชน์ให้กับสังคม” ต้นกล้า กล่าวทิ้งท้าย


ว่ากันว่าชีวิตมันไม่ง่าย โดยเฉพาะสำหรับเด็กเปราะบางที่ต้นทุนชีวิตบางกว่า ทุกจังหวะของชีวิตที่มีผู้อุปการะอยู่เบื้องหลังสนับสนุนโอกาสให้กับเขา ช่วยให้ ต้นกล้า มีพลังที่จะต่อสู้กับชีวิต และเติบโตเป็นต้นไม้ที่กล้าท้าแรงลมที่อุทิศตนเพื่องานบรรเทาสาธารณภัย ต่อชีวิตและให้โอกาสแก่ผู้อื่น