‘ไผ่เฮียะ ไม้ไผ่ขด’เปลี่ยนชีวิตคนในชุมชนบ้านผาสิงห์

‘กลุ่มไม้ไผ่ขดบ้านผาสิงห์’ พื้นที่ดำเนินงานโครงการพัฒนาฯ ถ้ำเวียงแก จ.น่าน

‘กลุ่มไม้ไผ่ขดบ้านผาสิงห์’ พื้นที่ดำเนินงานโครงการพัฒนาฯ ถ้ำเวียงแก จ.น่าน โดยการนำของนายสมยศ สิงห์คราช หรือประธานโก๋ เล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นว่าต้องการนำไม้ไผ่ที่มีอยู่มากในชุมชนมาเพิ่มมูลค่า มีการนำเสนอหลายหน่วยงานแต่ไม่ได้รับการตอบรับ จนกระทั้งในปี 2012 มีเพียงมูลนิธิศุภนิมิตฯ ที่รับฟังและยื่นมือให้ความช่วยเหลือเป็นที่แรก

โอกาสครั้งนั้นกลายเป็นกุญแจที่เปิดประตูชีวิตของคนเกือบร้อยคนในชุมชนบ้านผาสิงห์ ตั้งแต่เด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ยังเล็กแต่มีใจรัก จนถึงพ่ออุ๊ย วัย 80 ปี ที่ยังคงมีแรงกายแรงใจในการเรียนรู้สิ่งใหม่ “อายุไม่เกี่ยว ขอแค่มีใจรัก” ประธานโก๋อธิบายหลักการคัดเลือกสมาชิก เพราะความสำเร็จของงานหัตถกรรมไม่ได้อยู่ที่อายุหรือประสบการณ์ แต่อยู่ที่จิตใจที่พร้อมจะเรียนรู้และอุทิศ

‘ไผ่เฮียะ’ ที่เคยถูกมองข้าม กลับกลายเป็นดาวเด่นของโครงการ “ไผ่เฮียะเป็นพันธุ์ที่เหมาะกับการขดขึ้นรูป เพราะมันไม่ลื่นและสามารถซ้อนกันได้พอดี” ประธานโก๋อธิบายด้วยสายตาที่เปี่ยมด้วยความภาคภูมิใจ เหมือนกับที่เขาพูดถึงเพชรเม็ดงามที่ซ่อนอยู่ในป่าธรรมดา

ไผ่แต่ละต้นต้องมีอายุ 2 ปีขึ้นไป ลำต้นต้องคัดเลือกปล้องที่ 4-7 เคล็ดลับนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน แต่สั่งสมมาจากการลองผิดลองถูก จากการสังเกตธรรมชาติ และจากการแบ่งปันความรู้ระหว่างคนรุ่นต่าง ๆ ในชุมชนสำหรับกระบวนการทำงานเริ่มจากการจักตอกไผ่ให้เป็นเส้นบาง แล้วขดเป็นรูปต่าง ๆ ตั้งแต่จานรองแก้วที่ง่ายที่สุด ไปจนถึงโคมไฟและแจกันที่ซับซ้อน “ชุบน้ำกาวผสมกับน้ำสบู่ลาย เพื่อให้มันยึดตัว น้ำสบู่ลายช่วยกันมอด กันปลวก กันเชื้อรา” ประธานโก๋ อธิบาย

ป้าคำหล่า ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกหลัก ยิ้มกว้างเมื่อเล่าถึงรายได้ “มีค่าแรงให้ด้วย ค่าแรงที่เราเคยทำมาคือชิ้นงานขึ้นอยู่กับความละเอียด” โคมไฟชิ้นละ 60 บาท ฟังดูเป็นจำนวนเงินไม่มาก แต่สำหรับชุมชนชนบทที่เคยพึ่งพาเกษตรกรรมเพียงอย่างเดียว รายได้เสริมนี้เหมือนกับฝนที่ตกในหน้าแล้ง พร้อมทั้งเป็นแหล่งรวมตัวของผู้สูงอายุในชุมชนอีกด้วย

“แตกต่างมากเลยครับ” ประธานโก๋ตอบอย่างไม่ลังเล เมื่อถูกถามถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น พร้อมชูนิ้วขึ้นมานับ “ข้อแรก สร้างอาชีพให้คนในชุมชน ข้อ 2 งานไม้ไผ่ขดถูกชูเป็นงานไม้ไผ่อันดับหนึ่งของจังหวัด และที่สำคัญกลายเป็นพื้นที่สร้างคุณค่าและความภาคภูมิใจให้ผู้สูงอายุในชุมชน ได้พัฒนาตนเองจนเป็นวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ”

ที่สำนักงานมูลนิธิศุภนิมิตฯ จ.น่าน อุปกรณ์ในสำนักงานหลายชิ้นมาจากไผ่ขด ไม่ใช่เพราะความประหยัด แต่เป็นการแสดงถึงความภาคภูมิใจและการยอมรับในคุณภาพของผลงานจากชุมชนบ้านผาสิงห์

“ต้องขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่งเลยไม่มีมูลนิธิศุภนิมิตฯ เรานับ 1 2 3 ไม่ได้เลย ถ้าไม่มีมูลนิธิศุภนิมิตฯ กลุ่มไผ่ขดไม่เกิดและตอนนี้กลายเป็นคลัสเตอร์ไผ่ขดของเมืองน่านที่ขาดไม่ได้ ” ประโยคส่งท้ายสั้น ๆ ของประธานโก๋ ที่ซ่อนความซาบซึ้งสุดใจเป็นที่ตอกย้ำว่าไผ่ขด คืองานฝีมือทรงคุณค่าของชุมชน เป็นสัญลักษณ์แห่งความหวัง ความภาคภูมิใจ และพลังในการเปลี่ยนแปลงที่ไม่มีวันสิ้นสุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ป้ายกำกับ
Child Rights Climate Change CSR Migrant SDG กลุ่มชาติพันธุ์ การจัดการภัยบิบัติ การจัดการภัยพิบัติ การตีตราและเลือกปฏิบัติ การพัฒนาสถานศึกษา การมีส่วนร่วมของเด็ก ครอบครัวสุขสันต์ ความยั่งยืน ความยุติธรรมในสังคม ความยุติธรรมในสังคม (Social Justice) ความรับผิดชอบต่อสังคม ความรุนแรงต่อเด็ก ความเชื่อและการพัฒนา งานรณรงค์เพื่อเด็ก จิตอาสา ทักษะชีวิตเยาวชน ทักษะอาชีพเยาวชน นโยบายการพัฒนาเด็ก น้ำเพื่อชีวิต บริการสุขภาพขั้นพื้นฐาน บริจาคทุนการศึกษา บริจาคเงิน ปกป้องคุ้มครองเด็ก ประชากรข้ามชาติ ผู้นำเยาวชน พัฒนาชุมชน ภัยพิบัติ ยุติวัณโรค/End TB ยุติเอดส์/Stop AIDS สังคมแห่งการแบ่งปัน สิทธิมนุษยชน สิทธิเด็ก ส่งน้องจบ ป-ตรี อดีตเด็กในความอุปการะ เด็กข้ามชาติ เด็กยากไร้ เด็กไร้รัฐ เสียงเด็กและเยาวชน แรงงานข้ามชาติ/ประชากรข้ามชาติ แรงงานต่างชาติ

ข่าวอื่นๆ

ปลุกพลังจิตอาสาเยาวชน รวมพลังพัฒนาแผ่นดินเกิด จังหวัดกาญจนบุรี

ผู้นำเยาวชนศุภนิมิตสังขละบุรี ลงพื้นที่เพื่อปฏิบัติกิจกรรมจิตอาสา พัฒนาปรับปรุงโรงเรียน ให้ความรู้เกี่ยวกับสิทธิเด็ก และการป้องกันอุบัติเหตุ
อ่านต่อ »

สายธารแห่งความหวัง: เพื่อการปกป้องคุ้มครองเด็ก (Channel of Hope for Child Protection)

เพราะการปกป้องเด็กคือการตอบสนองต่อความรักของพระคริสต์ที่ทรงมีต่อผู้ที่เปราะบางที่สุดในสังคม คริสตจักรในฐานะ “ครอบครัวฝ่ายจิตวิญญาณ” จึงมีหน้าที่โอบอุ้ม ดูแล และปลูกฝังความปลอดภัยให้กับเด็กทุกคน
อ่านต่อ »
0