“ที่ผ่านมา หนูเคยได้เรียนปักผ้า คหกรรม และทำอาหารค่ะ พอเห็นห้องเรียนที่เคยใช้ถูกน้ำท่วมเสียหาย หนูทั้งตกใจและเสียดายอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เราเคยใช้ฝึกฝนค่ะ”เด็กหญิงบุญรักษา หรือ น้องใบบุญ นักเรียนชั้น ม.1 วัย 13 ปี บอกเล่าความรู้สึก หลังได้เห็นความเสียหายของโรงเรียนจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ เมื่อเดือนสิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา

เมื่อวันที่ 21 และ 31 สิงหาคม 2567 จังหวัดเชียงรายต้องเผชิญกับฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย ทำให้ลำห้วยผาตั้งที่ไหลผ่านหมู่บ้านและโรงเรียนเอ่อล้นตลิ่ง น้ำไหลบ่าเข้าท่วมทั้งชุมชนและโรงเรียนอย่างรวดเร็ว พร้อมพัดพาเอาดินโคลน กิ่งไม้ และเศษซากต่าง ๆ เข้ามาด้วย ก่อให้เกิดความเสียหายทั้งในเชิงกายภาพและจิตใจอย่างหนัก
นายไมตรี ยาละ ผู้อำนวยการโรงเรียน เล่าว่า “ผมได้สอบถามผู้เฒ่าผู้แก่ในชุมชน หลายคนบอกว่านี่น่าจะเป็นน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 90 ปี โรงเรียนของเราตั้งอยู่ติดกับลำห้วยผาตั้ง ได้รับผลกระทบเต็ม ๆ ทั้งห้องดนตรี ห้องช่าง ห้องครัว โรงอาหาร โรงกรองน้ำดื่ม และห้องเรียนคหกรรม ได้รับความเสียหายทั้งหมดครับ”
ด้าน นางสาวทิพย์วรรณ์ วงสุข ครูผู้สอนวิชาการงานอาชีพ ก็ได้สะท้อนผลกระทบที่เกิดขึ้นเช่นกันว่า “ห้องคหกรรมเป็นทั้งห้องเรียนและที่จัดเก็บอุปกรณ์ฝึกอาชีพทุกอย่าง แต่น้ำท่วมทำให้อุปกรณ์เสียหายและสูญหายไปจำนวนมาก ครูต้องปรับรูปแบบการสอนเป็นการเรียนภาคทฤษฎีเท่านั้น นักเรียนไม่ได้ฝึกลงมือจริง ซึ่งทำให้พวกเขาขาดโอกาสในการเรียนรู้ทักษะที่สามารถนำไปใช้สร้างรายได้ในอนาคตได้เลย”


หลังเกิดเหตุ มีหลายภาคส่วนเข้ามาช่วยเหลือ ทั้งหน่วยงานต้นสังกัด หน่วยงานท้องถิ่น และองค์กรพัฒนาเอกชน หนึ่งในนั้นคือ มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย ที่ได้เข้ามาร่วมฟื้นฟู โดยดำเนิน โครงการปรับปรุงอาคารเรียน และสนับสนุนระบบน้ำและถังเก็บน้ำ ดำเนินการซ่อมแซมอาคารห้องเรียนคหกรรม และสนับสนุนระบบน้ำดื่มน้ำใช้สะอาด และถังก็บน้ำ เพื่อให้เด็ก ๆ ได้กลับมาเรียนในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเหมาะสมอีกครั้ง โดยเป็น 1 ใน 4 อำเภอ ในพื้นที่ 2 จังหวัด ที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เอชเอสบีซี ใน “โครงการเอชเอสบีซี ปันน้ำใจ ช่วยฟื้นฟูผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคเหนือปี 2567”


“ตอนนี้ได้ห้องเรียนใหม่ หนูดีใจมากเลยค่ะ ทักษะอาชีพเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มาก เพราะเราสามารถเอาไปใช้เลี้ยงตัวเองในอนาคตได้จริง ๆ ค่ะ” น้องใบบุญ กล่าวทิ้งท้ายด้วยรอยยิ้ม
เพราะการให้ในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นแค่การสร้างห้องเรียนใหม่ แต่คือการส่งต่อโอกาสในการเรียนรู้ เพิ่มพูนทักษะอาชีพ และต่อยอดสู่ชีวิตที่มั่นคงในอนาคต
นอกจากนี้ยังมีการสนับสนุนการปรับปรุงระบบน้ำดื่มน้ำใช้สะอาด และถังเก็บน้ำในโรงเรียน ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นพื้นฐานที่จะส่งผลต่อการมีสุขภาพที่ดีของนักเรียน
ทั้งนี้ “โครงการเอชเอสบีซี ปันน้ำใจ ช่วยฟื้นฟูผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคเหนือ ปี 2567” ยังได้ขยายความช่วยเหลือไปยังผู้ประสบภัยในจังหวัดเชียงใหม่ โดยดำเนินกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ อาทิ โครงการซ่อมแซมอุปกรณ์การเรียนและสถานที่เรียนของโรงเรียนในอำเภอแม่แตง โครงการจัดหาอุปกรณ์และวัสดุทำความสะอาดในพื้นที่อำเภอสันทราย อำเภอสารภี และอำเภอเมือง รวมถึงการส่งมอบความช่วยเหลือไปยังครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบมากกว่า 780 ครัวเรือน


มูลนิธิศุภนิมิตฯ ขอขอบคุณ ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จากใจ สำหรับการสนับสนุนโครงการนี้ และอีกหลากหลายโครงการที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและตั้งใจร่วมกันในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็ก ครอบครัว และชุมชนที่ห่างไกล ให้ได้รับโอกาสในการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
เพราะทุกเหตุผลของการให้ ล้วนมีคุณค่า และยิ่งใหญ่เสมอ
