“ถ้าไม่มีมูลนิธิศุภนิมิตฯ เราก็คงเดินมาไม่ถึงตรงนี้ และพวกเราก็คงไม่มีวันนี้” นางวันลี สีสด ประธานวิสาหกิจชุมชนตัดเย็บเสื้อผ้าบ้านหินโหง่น จ.อุทัยธานี กล่าวด้วยความตื้นตันใจ
ย้อนหลังกลับไปเมื่อ 25 ปี มูลนิธิศุภนิมิตฯ โครงการพัฒนาฯ ภูเมนทร์ จ.อุทัยธานี ได้เริ่มดำเนินการขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาความยากลำบากของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์กระเหรี่ยง ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ปลูกข้าว ทำไร่มันสำปะหลังและข้าวโพด ซึ่งเป็นการทำเกษตรแบบพึ่งพาธรรมชาติ และมักประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง ซึ่งโครงการสนับสนุนกลุ่มอาชีพตัดเย็บผ้า คือ หนึ่งในแผนงานที่ได้เริ่มต้นดำเนินงานขึ้นในช่วงเวลานั้น เพื่อแก้ไขปัญหาด้านรายได้ที่จะส่งผลต่อความเป็นอยู่ของครอบครัวเด็กๆ ในชุมชน
คุณวันลี สีสด เล่าถึงการเดินทางของกลุ่มว่า “กลุ่มของเราเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2542 ตอนนั้นมีสมาชิกเริ่มต้นประมาณ 20 คน โดยมูลนิธิศุภนิมิตฯ เข้ามาสนับสนุนอาชีพการเย็บผ้าห่มนวมด้วยมือ ต่อมาในปี 2544 ทางกลุ่มก็ได้มีความคิดว่าเราต้องการตัดเย็บชุดนักเรียน เพราะมองเห็นถึงโอกาสในการจำหน่าย โดยมูลนิธิศุภนิมิตฯ ก็ให้การสนับสนุนทั้งเรื่องของวัสดุ อุปกรณ์ วิทยากรให้การอบรม การสนับสนุนงบประมาณบางส่วนเพื่อก่อสร้างอาคารที่ทำการของกลุ่ม และยังรับซื้อชุดนักเรียนของกลุ่ม เพื่อสนับสนุนเป็นปัจจัยการศึกษาให้กับเด็กในความอุปการะ ของมูลนิธิศุภนิมิตฯ”
แม้ปัจจุบัน การดำเนินการตัดเย็บชุดนักเรียนได้ยุติการดำเนินการไปแล้ว แต่ทางกลุ่มก็ได้นำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับจากการดำเนินงานที่ผ่านมา รวมกับความรู้ที่ได้รับการอบรมจากหน่วยงานต่างๆ ที่ทางกลุ่มมักหาโอกาสเรียนรู้เพิ่มเติม มาพัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์
“ตอนนี้ผลิตภัณฑ์ของเราจะเน้นไปที่ผ้ามัดย้อมคราม และผ้า Ecoprint พิมพ์ลายใบไม้ ซึ่งทางกลุ่มได้รับการอบรมมาจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง และกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ซึ่งเราได้นำมาตัดเย็บเป็น กระเป๋าย่าม หมวก ผ้าคลุมไหล่ เสื้อผ้า และที่ผ่านมากลุ่มของเรายังได้รับรางวัลที่ 1 ระดับจังหวัดและระดับภาคจากกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี และรางวัลวิสาหกิจชุมชนดีเด่นที่ 1 ของจังหวัด ซึ่งที่ผ่านมาก็มีสถานีโทรทัศน์เข้ามาถ่ายทำการดำเนินงานของกลุ่มฯ ส่งผลให้ตอนนี้ทางกลุ่มเป็นที่รู้จักมีคำสั่งซื้อสินค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่องเลยค่ะ”
กลุ่มวิสาหกิจชุมชนตัดเย็บเสื้อผ้าบ้านหินโหง่น คือ ส่วนหนึ่งของการดำเนินโครงการพัฒนาฯ ที่มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของชุมชน เพื่อสร้างให้เกิดความยั่งยืน แม้วันนี้มูลนิธิศุภนิมิตฯ จะยุติการดำเนินโครงการพัฒนาฯ ในพื้นที่ชุมชนภูเมนทร์ไปแล้ว แต่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ ก็ยังสามารถดำเนินการต่อและไม่หยุดพัฒนา เป็นแหล่งงาน แหล่งรายได้เสริม ให้กับคนในชุมชน ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและยั่งยืนต่อไป
“สุดท้ายขอขอบคุณมูลนิธิศุภนิมิตฯ ที่สนับสนุนกลุ่มเรามาโดยตลอด ทำให้คนในชุมชนมีอาชีพ มีรายได้อย่างยั่งยืน ไม่ต้องดิ้นรนไปหางานทำที่อื่น ซึ่งกลุ่มเราก็ยังไม่หยุดในการเรียนรู้และพัฒนา และที่สำคัญเรายังให้ความสำคัญกับคนรุ่นใหม่ ที่จะมีโอกาสเข้ามาเรียนรู้ เพื่อต่อยอดการดำเนินงานของเราให้ยั่งยืนต่อไปค่ะ” นางวันลี สีสด กล่าว