“ตอนน้ำท่วมรู้สึกกลัวมาก แต่ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นแล้ว ที่บ้านน้ำไม่ท่วมแต่ที่โรงเรียนเสียหายเยอะ” ตัวแทนนักเรียน เล่าความรู้สึกจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งแม้พวกเขาไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ไม่สามารถมาเรียนได้ตามปกติ จนกว่าโรงเรียนจะได้รับการฟื้นฟู
นับแต่เดือนสิงหาคม – กันยายน 2024 ภาคเหนือของประเทศไทยต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากส่งผลกระทบต่อหลายพื้นที่ รวมถึง อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ซึ่งมีภูมิประเทศเป็นภูเขาสูง ทำให้เกิดดินสไลด์ในหลายจุด หนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรง คือ โรงเรียนรัฐราษฎร์วิทยา ต.แม่สลองใน ซึ่งเป็นโรงเรียนในพื้นที่ดำเนิน โครงการพัฒนาฯ แม่สลอง มูลนิธิศุภนิมิตฯ ที่ได้รับความเสียหายจากดินภูเขาถล่มลงมาเนื่องจากน้ำป่าไหลหลาก ทับสนามและอาคารเรียน จนทำให้โรงเรียนไม่สามารถเปิดทำการเรียนการสอนได้ตามปกติ
“โรงเรียนได้รับความเสียหายอย่างหนักจากดินสไลด์ สนามกีฬาที่ใช้ในการจัดกิจกรรมต่างๆ ของเด็กนักเรียนถูกดินทับ ส่วนอาคารเรียนก็ได้รับความเสียหายจนไม่สามารถใช้งานได้ แม้ตอนนี้มีความร่วมมือจากชุมชนและหน่วยงานภาครัฐที่เข้ามาช่วยตักดินออก แต่ยังมีอาคารเรียนและอุปกรณ์การเรียนที่ได้รับความเสียหายมาก จำเป็นต้องได้รับการซ่อมแซม” ดร.สราวุธ ราชศรีเมือง ผู้อำนวยการมูลนิธิศุภนิมิตฯ เล่าถึงสถานการณ์ปัจจุบันของโรงเรียนและชุมชน
จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น มูลนิธิศุภนิมิตฯ ได้ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนในช่วงต้นของเหตุการณ์ ร่วมกับจิตอาสา จาก โครงการ No One Left Behind แสนสิริไม่ทอดทิ้งใคร ของบริษัทแสนสิริ ร่วมลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ และจัดทำถุงยังชีพ มอบให้กับผู้ประสบภัย
นายสมัชชา พรหมศิริ Chief of Staff บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เล่าถึงความรู้สึกหลังจากได้ลงพื้นที่จริงว่า “เราเห็นสภาพความเสียหายและความลำบากของชุมชนจริง ๆ ซึ่งไม่เหมือนกับที่เราเคยเห็นในข่าว และพบว่าชาวบ้านยังไม่รู้วิธีรับมือกับเหตุการณ์ในอนาคตหากเกิดซ้ำอีก” นอกจากนั้นยังชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการสร้างการป้องกันและการเตรียมตัวรับมือกับภัยพิบัติ ซึ่งจะช่วยลดความเสียหายและความสูญเสียในอนาคต
“สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การทำให้โรงเรียนกลับมาเปิดสอนได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด เพื่อให้เด็กๆ ได้กลับมาเรียนและเติบโตในสภาพแวดล้อมที่ดีเหมือนเดิม และผมขอเป็นตัวแทนมูลนิธิศุภนิมิตฯ เชิญชวนผู้ที่สนใจเข้ามามีส่วนร่วมในการฟื้นฟูโรงเรียนและชุมชน” ดร.สราวุธ ราชศรีเมือง กล่าวถึงความมุ่งมั่น และเชิญชวนทุกคนเข้ามามีส่วนในการดำเนินโครงการฟื้นฟูผู้ประสบภัยหลังน้ำท่วมไปด้วยกัน
เช่นเดียวกับ นายสมัชชา พรหมศิริ “ยังไม่สายเกินไปครับ การช่วยเหลือมีหลายรูปแบบ การช่วยเหลือฉุกเฉินก็คือรูปแบบหนึ่ง แต่การช่วยเหลือที่เป็นการฟื้นฟู เป็นการช่วยเหลือในระยะกลางและระยะยาว เราต้องมานั่งดูและทำความเข้าใจว่าเราจะช่วยเหลืออะไรได้บ้างซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญ ผมก็อยากจะเชิญชวนใครก็ตามที่มีศักยภาพ มีกำลังเพียงพอ ที่จะเข้ามาช่วยเหลือคนที่อ่อนแอกว่า หากมีทุนทรัพย์เพียงพอ ผมก็อยากจะเชิญชวนครับ”
มูลนิธิศุภนิมิตฯ ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมคืนความหวัง เติมรอยยิ้มให้ชุมชน โดยการบริจาคสมทบกองทุนฟื้นฟูผู้ประสบภัยหลังน้ำท่วม ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : https://give.worldvision.or.th/mzsNNd