เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2568 มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทยได้จัดงานเฉลิมฉลองความสำเร็จและพิธีส่งมอบ “โครงการพัฒนาชุมชนเป็นพื้นที่แบบพึ่งตนเองและยั่งยืน” ณ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ดำเนินงานของ “โครงการอุปการะเด็ก” ที่เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 ด้วยแรงสนับสนุนจากผู้อุปการะเด็กทุกท่านที่ร่วมเดินทางเคียงข้างกันมาตลอดกว่า 23 ปี
นางสาวสิริมา วังป่า ผู้จัดการกลุ่มโครงการพัฒนา จังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวถึงผลความสำเร็จของการดำเนินโครงการว่า “ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มูลนิธิศุภนิมิตฯ ได้ดำเนินงานโดยมีเป้าหมายเพื่อให้ เด็ก ครอบครัว และชุมชน มีชีวิตที่อยู่ดีมีสุขและพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน ครอบคลุมพื้นที่ 4 ตำบล ได้แก่ ผาบ่อง ปางหมู ห้วยปูลิง และห้วยโป่ง รวม 32 หมู่บ้าน มีเด็กในความอุปการะกว่า 3,891 คน และมีประชาชนมากกว่า 10,000 คน ที่ได้รับผลกระทบเชิงบวกจากการพัฒนาในด้านต่าง ๆ ผ่านความร่วมมือของภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรความเชื่อต่าง ๆ และพลังของชุมชนเองค่ะ”
บรรยากาศภายในงานอบอวลไปด้วยความอบอุ่น ความภาคภูมิใจ และรอยยิ้มแห่งความสำเร็จ ทุกฝ่ายได้ร่วมกันเฉลิมฉลองผลสำเร็จของการทำงานที่ยาวนาน ภายในงานมีการจัดแสดงนิทรรศการและผลงานสะท้อนผลลัพธ์ของโครงการ เช่น โครงการส่งเสริมทักษะอาชีพนักเรียน โครงการพัฒนาศักยภาพผู้นำเยาวชน และการแสดงความสามารถของเด็กและเยาวชน
งานนี้ได้รับเกียรติจาก ว่าที่พันตรี ยุทธนา เจ้าดูรี นายอำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นางแรมจันทร์ ไชยสิทธิ์ ประธานคณะกรรมการจัดการโครงการแม่ฮ่องสอน, นางรสลิน โกแวร์ ผู้อำนวยการมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย รวมถึงผู้บริหาร อาสาสมัคร และแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมแสดงความยินดีอย่างอบอุ่น
นางแรมจันทร์ ไชยสิทธิ์ กล่าวว่า “จากการดำเนินโครงการที่ผ่านมา เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน เด็กในความอุปการะได้รับโอกาสทางการศึกษา มีเยาวชนจำนวนมากที่เรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น ได้รับการพัฒนาทักษะชีวิตและทักษะอาชีพเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการพึ่งพาตนเอง ขณะเดียวกัน ครอบครัวและชุมชนก็ได้รับการเสริมพลังให้สามารถสร้างความอยู่ดีมีสุข มีอาชีพและรายได้ที่มั่นคง พึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน”
ทางด้าน ว่าที่พันตรี ยุทธนา เจ้าดูรี กล่าวเพิ่มเติมว่า “ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมในพิธีปิดโครงการฯ วันนี้ จากรายงานความสำเร็จของมูลนิธิศุภนิมิตฯ ผมรู้สึกชื่นชมในความทุ่มเทตลอด 23 ปี เห็นได้ชัดว่าโครงการนี้ได้ยกระดับคุณภาพชีวิตของเด็ก ครอบครัว และชุมชนอย่างแท้จริง ทั้งในด้านการศึกษา อาชีพ และการคุ้มครองเด็ก ซึ่งถือเป็นแบบอย่างของการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่เกิดขึ้นได้จริง”
ความสำเร็จของโครงการแม่ฮ่องสอน คือผลลัพธ์ของหัวใจที่มุ่งมั่นและความร่วมมือของทุกภาคส่วน เด็ก ครอบครัว และชุมชนที่ครั้งหนึ่งเคยเปราะบาง วันนี้ได้เติบโตขึ้นอย่างมั่นคงและภาคภูมิ พร้อมก้าวต่อไปด้วยศักยภาพและความหวัง
มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทยจะยังคงเดินหน้าต่อไปด้วยความรัก ความศรัทธา และความเชื่อมั่นในพลังของการเปลี่ยนแปลง เพราะเรารู้ดีว่า “ยังมีเด็กอีกมากมายที่รอโอกาส รอมือที่ยื่นไปช่วย และรอใครสักคนที่เชื่อในคุณค่าของพวกเขา”
เราจะไม่หยุดพัฒนา เพราะทุกชีวิตมีความหมาย และทุกโอกาส…สามารถเปลี่ยนอนาคตได้จริง


