เด็กทุกคนควรได้เติบโตในชุมชนที่เอื้อต่อการเรียนรู้ มีโอกาส และกิจกรรมที่ช่วยเปิดโลกและต่อยอดศักยภาพของเขาอย่างเต็มที่ เพราะเมื่อเด็กได้เรียนรู้ตามวัย ได้รับการส่งเสริมอย่างเหมาะสม เขาจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่อยู่ดีมีสุข และสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างมั่นคง นี่คือเป้าหมายที่มูลนิธิศุภนิมิตฯ มุ่งมั่นและยึดมั่นมาโดยตลอด
เรื่องราวของ “ครูอรอุมา แก้วประเสริฐ” อดีตเด็กในความอุปการะ คือภาพสะท้อนที่ชัดเจนของเป้าหมายนั้น
ย้อนกลับไปในวัยเด็ก อรอุมาเคยเล่นเป็นครูกับเพื่อน ๆ อย่างสนุกสนาน ความฝันของเธอจุดประกายขึ้นจากเกมในวัยเยาว์ความฝันเล็ก ๆ ที่วันหนึ่งอยากจะเป็นครู เพื่อถ่ายทอดความรู้ให้กับคนอื่น
อรอุมาเป็นเด็กชาติพันธุ์ขมุ พ่อของเธอเป็นศิษยาภิบาลที่ทุ่มเทชีวิตให้กับงานรับใช้พระเจ้า แม้จะไม่มีรายได้จากหน้าที่นั้น ท่านก็ยังทำงานหนักในไร่ข้าวโพดเพื่อเลี้ยงดูครอบครัว ด้วยฐานะที่เรียบง่าย ความฝันที่จะได้เรียนหนังสือสูง ๆ หรือแม้แต่จะได้เป็นครูดูจะห่างไกลเหลือเกิน
“ตอนเด็ก ๆ ชุดนักเรียนที่มีต้องใส่จนเก่า ขาด หรือคับเกินกว่าที่จะใส่ได้” ครูอรอุมา เล่าด้วยรอยยิ้มเจือความทรงจำ “แต่ตั้งแต่ได้รับการอุปการะตอน ป.3 ชีวิตก็เปลี่ยนไป ได้มีชุดนักเรียนใหม่ มีรองเท้า มีอุปกรณ์การเรียนครบทุกปี และยังได้รับการสนับสนุนต่อเนื่องจนเรียนจบเลยค่ะ”
และนั่นคือจุดเปลี่ยนของชีวิต เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่เคยขาดโอกาสทางการศึกษา กลับได้เติบโตอย่างมั่นคงในเส้นทางแห่งการเรียนรู้ จนวันนี้ เธอได้กลายเป็น “ครูอรอุมา” ครูประจำโรงเรียนบ้านเมืองกาญจน์ ผู้ตั้งใจส่งต่อโอกาสที่ตัวเองเคยได้รับ ให้กับเด็ก ๆ ในถิ่นทุรกันดาร
“เราเคยได้รับโอกาส วันนี้ในฐานะครู ฉันจะใช้ความรู้และโอกาสนั้น ถ่ายทอดให้เด็ก ๆ อย่างเต็มความสามารถ เพราะเด็กทุกคนควรได้รับการศึกษาที่ดี แม้จะอยู่ในพื้นที่ห่างไกลค่ะ”
เพราะทุกการอุปการะ คือเมล็ดพันธุ์ของความหวัง ที่เติบโตเป็นพลังชีวิตในอนาคตของเด็กแต่ละคน